TP-Link รุกอุตสาหกรรมด้านการเฝ้าระวังความปลอดภัย ด้วยโซลูชั่น VIGI Surveillance ตอบโจทย์ธุรกิจ SMB

กองบรรณาธิการ

บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระดับโลกในกลุ่มตลาด Small and Medium-sized Business (SMB) ตอกย้ำแบรนด์ VIGI ระบบเครือข่ายกล้องวงจรปิดแบบครบวงจรเรียกว่า  VIGI Surveillance ด้วยชิปเซ็ต Smart AI ที่มาพร้อมในตัวกล้องวงจรปิด VIGI ทุกรุ่น สามารถตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติได้อย่างแม่นยำบนพื้นฐานของ AI สามารถกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังการบุกรุก และตรวจจับการกระทำที่น่าสงสัย เช่น บริเวณใกล้กับเคาน์เตอร์ชำระเงิน และวัตถุต่าง ๆ บนชั้นวาง ด้วยการทำงานที่ยืดหยุ่นและใช้งานง่าย โดยมีผลิตภัณฑ์ครบทุกหมวดหมู่ พร้อมฟีเจอร์สำคัญ ๆ ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม  สถาบันการศึกษา ผู้ใช้งานทั่วไป และคู่ค้าในธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าเพิ่ม (VAR) และผู้รวบรวมระบบ System Integrators (SI)

 Mr.Chen Kun Managing Director บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า TP-Link เริ่มเปิดตลาดกล้องวงจรปิดแบรนด์ VIGI ในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เพราะเล็งเห็นถึงความต้องการที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดกล้องวงจรปิดติด Top 3 ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี อีกทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม IP Camera นับเป็นส่วนหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับตลาดเน็ตเวิร์คกิ้ง ซึ่งเป็น Main business ของ TP-Link ที่เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยอีกด้วย และจากการทำตลาดในจีนมา 5 ปี ได้เป็นผู้นำตลาด CCTV อันดับ 3 (Top 3) ในประเทศจีน  เป็นอีกข้อได้เปรียบ และคาดว่าจะขยับขึ้นสู่อันดับ 2 (Top 2) ได้อีกไม่นาน โดยเชื่อมั่นในจุดแข็งทั้งด้านประสบการณ์การตลาด การผลิต (Manufacturing) และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเน็ตเวิร์คกิ้งไร้สายจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ VIGI สู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางลงไป (SMB) และผู้ใช้งานทั่วไป (Consumers) ที่มีความเชี่ยวชาญและชัดเจนในเรื่องของแบรนด์ ตำแหน่งทางการตลาด

อีกหนึ่งความโดดเด่นที่ลูกค้าเลือกแบรนด์ VIGI ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของ TP-Link ให้ความสำคัญกับการส่งมอบ “คุณประโยชน์” ให้กับลูกค้าในการติดตั้งใช้งาน  ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ากล้องวงจรปิด VIGI ของ TP-Link สามารถใช้งานเทคโนโลยี AI ได้ทุกรุ่น

 ชิปเซ็ต Smart AI ที่มีอยู่ในกล้องวงจรปิด “VIGI”  ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า ทั้งการนับจำนวนคนแบบเรียลไทม์ นับการเข้าออกของลูกค้าด้วยความแม่นยำสูง นับจำนวนคนผ่านกล้องด้วยเลนส์คู่ VIGI และเทคโนโลยีการประมวลผล AI และ AI Heat Map ที่สามารถระบุพื้นที่ที่ลูกค้าสัญจรจำนวนมากหรือโซนอับภายในร้านค้า  และยังสามารถวิเคราะห์เส้นทาง ค้นหาจุดที่มีการใช้บริการสูงสุดจากเส้นทางของลูกค้าและใช้ประโยชน์จากสถานที่เหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มยอดขาย และวางแผนกิจกรรมทางการตลาดให้กับธุรกิจค้าปลีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายทรงศักดิ์ สังขเวทัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กล้อง VIGI มีให้เลือกหลายรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้ใช้งานทั้งในระดับ Home user และในระดับองค์กร หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ต้องการติดตั้งในแต่ละพื้นที่ทั้งแบบภายในอาคารหรือนอกอาคาร การดูเหตุการณ์ในเวลากลางคืนทั้งแบบภาพอินฟาเรต และภาพสี และการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย LAN / PoE หรือแบบไร้สาย เช่น รุ่น VIGI C340-W หรือ C540-W และในกล้อง VIGI ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี AI ที่ Built-in มาอยู่ในกล้องทุกรุ่น ใช้ตรวจจับวัตถุ คน สัตว์ หรือรถยนต์ สามารถจัดเก็บไฟล์ได้อย่างยืดหยุ่นด้วยช่องใส่ Memory Card ที่ตัวกล้อง หรือฟังก์ชัน Two-Way Audio สามารถพูดโต้ตอบกับผู้ที่อยู่หน้ากล้องได้

สำหรับในเรื่องรับประกันและการให้บริการหลังการขาย  ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อที่จะทำให้ลูกค้าทุกท่านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ VIGI ได้รับความพึงพอใจสูงสุด โดยผลิตภัณฑ์ VIGI ทุกรุ่นจะมีการรับประกันถึง 3 ปี และหากสินค้าเสียในระยะเวลารับประกันจะเป็นการเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้กับลูกค้าโดยไม่มีการนำมาซ่อมแล้วนำกลับมาวนเปลี่ยนให้กับลูกค้าตลอดจนการบริการหลังการขาย ซึ่งหากทางลูกค้าต้องการทราบข้อมูล หรือติดปัญหาเรื่องการติดตั้งหรือการใช้งาน ทางบริษัทฯ มีช่องทางติดต่อที่จะรองรับลูกค้าทุกท่านทั้งช่องทาง Call Center และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ทั้ง Line และ Facebook

#TPlink #ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัย #กล้องวงจรปิดสำนักงาน #AI #AIDetection #ThaiSMEs #กล้องCCTV

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share