กองบรรณาธิการ

มร.ทีเจ วอลตัน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชันเนล กล่าวว่า เสี่ยวหมี่มีแผนที่จะจำหน่ายรถรถไฟฟ้าไปยังตลาดทั่วโลกใน ปี 2027 หลังจากที่ได้ทำตลาดในประเทศจีน อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม 2024 และมียอดส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 Series กว่า 75,869 คันและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการส่งมอบรถยนต์ 350,000 คันตลอดทั้งปี 2025

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของเสียวหมี่จะทำงานเชื่อมโยงกับ ระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human × Car × Home” สามารถผสานการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และรถยนต์เข้าไว้ด้วยกันไว้อย่างลงตัว โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ในระบบนิเวศน์อัจฉริยะของเสียวหมี่ที่มีการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ในบ้าน และเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะ AIoT อื่นๆมากกว่า 943 ล้านอุปกรณ์
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็นรองรับตลาดประเทศไทยและตลาดอาเซียนด้วย
สำหรับสินค้าในกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ของเสียวหมี่ ปัจจุบันเสียวหมี่มียอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่มากกว่า 11 ล้านเครื่อง และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะอันดับ 4 ในตลาดจีน

“เรารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังส่งมอบและนำเสนอในวันนี้จะได้รับความชื่นชอบจากผู้ใช้งานชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเชื่อว่ายังมีโอกาสอีกมากในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่แรก ดังนั้นการเปิดตัวในวันนี้จึงถือเป็นการเริ่มต้นการเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เรามอบให้กับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่” มร.วอลตัน กล่าว
เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง เสียวหมี่ ยังได้เปิดตัว สมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition โดยมี BamBam เป็นแอมบาสซาเดอร์ เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความล้ำสมัยของเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมที่มาพร้อมกับกล้องขั้นเทพสามารถรองรับการถ่ายรูปที่คมชัด สวยงาม ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป

Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition มาพร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีลายเซ็นของแบมแบม กันต์พิมุกต์ บนฝาหลัง รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 10,990 บาท (จากราคาปกติ 11,990 บาท) ที่ Xiaomi Store เท่านั้น พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition ในระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับฟรีหูฟัง Redmi Buds 6, กระเป๋า XFF Sport Bag, ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน2 และประกันหน้าจอแตก (เปลี่ยน 1 ครั้ง ภายใน 6 เดือน) มูลค่ารวม 12,780 บาท
“ผู้ที่ชื่นชอบ Redmi Note 14 Series นั้นเปรียบได้ดั่งผู้ที่มีชีวิตชีวา เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความอ่อนเยาว์ ซึ่งเราคิดว่าพวกเขาเหล่านี้น่าจะชื่นชอบ Redmi Note Series และเราเชื่อว่าหาก Redmi Note 14 Series นั้นมีบุคลิกภาพตัวอุปกรณ์ก็จะมีบุคลิกภาพแบบนี้ด้วย เราเชื่อว่าด้วยความมีเสน่ห์ ความมีน้ำใจ และความเอาใจใส่ของ BamBam นั้นเหมาะกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์นี้และผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จะต้องชื่นชอบเป็นอย่างมากแน่นอน สำหรับเราการมี BamBam เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Redmi Note 14 Series นั้นถือเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบและลงตัว” มร. วอลตัน กล่าวและว่า “คนไทยชอบถ่ายรูปมาก พวกเขาชอบถ่ายรูปด้วยกล้องหลังและโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบถ่ายรูปด้วยกล้องเซลฟี่ เราทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาซอฟต์แวร์เกี่ยวกับกล้องเซลฟี่และซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานชาวไทยและรวมไปถึงผู้ใช้งานชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือสิ่งที่เราทำเพื่อให้คนทั่วโลกและชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นชื่นชอบที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา”

สำหรับผลประกอบการในตลาดประเทศไทยตามรายงานของ Canalys ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เสียวหมี่เป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายอันดับ 2 ในตลาดประเทศไทย และยังเป็นแบรนด์แท็บเล็ตชั้นนำในไทยเชื่อว่าเสียวหมี่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดประเทศไทยและเข้าถึงความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้เสียวหมี่ยังให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับตลาดไทยและหวังว่าจะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ อันน่าทึ่งให้กับลูกค้า นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
“การที่เราอยู่ในอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความรักและความเชื่อมั่นที่เราได้รับจากผู้ใช้ชาวไทย วิธีที่เราสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองคือการย้อนกลับไปสู่แนวคิดในการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งสมาร์ทโฟนของเรานั้นสามารถเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราได้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องยากมากที่แบรนด์อื่นๆจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งสามารถโต้ตอบกันได้อย่างราบรื่น นั่นคือสิ่งที่ผมเชื่อว่าเราจะเติบโตได้ทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน” มน.วอลตัน กล่าว

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2567 เสียวหมี่ยังติดอันดับใน Fortune Global 500 นับเป็นการติดอันดับเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน
#เสียวหมี่ #ThaiSMEs
#Human×Car×Home #RedmiNote14Pro5GBamBamLimitedEdition